ทุกๆคนคงจะมีความฝันว่าในอนาคตหรือบั้นปลายชีวิตว่าอยากมีบ้านสวยๆ รถหรูๆ หรือความฝันอื่นๆแตกต่างกันไป ตัวคุณพ่อของดิฉันก็เช่นกันค่ะ มีความฝันว่าอยากมีรถเบนซ์ป้ายแดงซักคันไว้ขับในชีวิตนี้ ท่านเป็นเกษตรกรตัวเล็กๆที่เก็บหอมรอมริบและอยากแสดงให้เห็นว่าอาชีพเกษตรกรก็สามารถนั่งรถเบนซ์ได้ ท่านทำงานอย่างหนักเพื่อความฝัน ในที่สุดฝันก็เป็นจริงในวัย 66 ปี คุณพ่อได้ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น E-300 BlueTEC HYBRID ด้วยเงินสดที่เก็บมาตลอดชีวิต เพียงหวังว่าจะทำให้ความฝันเป็นจริง คุณพ่อได้ทดลองขับรถตัวอย่างเมื่อวันที่ 11/4/59 แล้วก็ตกลงซื้อจ่ายเงินมัดจำวันนั้นเลยค่ะ พอวันรุ่งขึ้นก็จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดและได้รถมาใช้ ท่านจึงทดลองขับด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม/ชม แต่เจอปัญหาว่าภายในรถยนต์มีเสียงลมเข้ามาดังมากจึงเอารถไปแจ้งที่ศูนย์ค่ะว่าเจอปัญหานี้ และไม่ขอรับรถคันนี้ ทางบริษัทที่จำหน่ายก็เปลี่ยนให้ค่ะ แต่แจ้งว่ารถอยู่ที่เชียงใหม่ต้องไปรับเองหรือรอให้ทางเชียงใหม่ส่งมา คุณพ่อจ่ายเงินทั้งหมดไปแล้วเลยอยากได้รถมาโดยเร็วที่สุดจึงตัดสินใจไปรับรถจากเชียงใหม่และขับกลับมาค่ะ ตัวรถก็ยังมีเสียงลมเข้าอีกแต่ไม่มากเท่าตอนแรก ท่านก็ทำใจแล้วว่าคงเป็นเรื่องปกติของรถ
หลังจากนั้นก็มีการใช้งานมาได้เพียง 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 22/4/59 ถึงวันที่ 30/9/59 ระยะรถ 8,000 กว่ากิโลเมตร รถได้มีอาการสตาร์ทไม่ติด จึงต้องนำรถขึ้นสไลด์มาที่บริษัทในวันที่ 3/10/59 เพื่อส่งเข้าศูนย์ซ่อมแต่ทางศูนย์ซ่อมได้ทำการชำแหละรถทั้งคันเพื่อซ่อมแซม โดยไม่ได้แจ้งทางลูกค้าว่าจะต้องมีการรื้อรถทั้งคัน ทางคุณพ่อได้เข้าไปตรวจเช็ครถที่ส่งซ่อมพบว่าการทำงานของทางศูนย์บริการไม่เรียบร้อย และไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่เหมาะสมกับชื่อเสียงของรถ ทำให้คุณพ่อไม่มั่นใจในความปลอดภัยของรถว่ารถที่ประกอบกลับใหม่จะได้มาตรฐานเหมือนกับที่ออกมาจากโรงงาน และได้แจ้งยืนยันที่จะไม่รับรถกับศูนย์บริการที่ซื้อรถ แต่ไม่ได้รับคำตอบในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น คุณพ่อจึงติดต่อไปยังสาขาหลัก และได้รับการยืนยันว่าไม่สามารถคืนรถได้ หลังจากนั้นก็ได้ทำการติดต่อไปยังบริษัททั้งสองหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ
นอกจากนี้ทางเรายังไม่ได้รับหนังสือสัญญาซื้อขายรถ,กรมธรรม์ประกันภัยชั้น1และรถยังไม่ได้จดทะเบียนเลยค่ะ แม้ว่ารถจะใช้งานมา 5 เดือนแล้ว
และนี่คือสภาพของรถที่โดนชำแหละค่ะ

นี่คือสภาพการทำงาน เอาของที่รื้อมาใส่เบาะลูกค้าโดยไม่มีอะไรรองรับเลยค่ะ

เลขไมล์หลังจากที่ศูนย์นำไปทดลองขับค่ะ ก่อนหน้าที่จะเข้ามีระยะแค่ 8000 กว่ากิโลเมตรค่ะ
ทางช่างได้แจ้งว่าส่วนที่เสียคือตัวคอนโทรลไฮบริดซึ่งเป็นส่วนหัวใจของรถ ตัวรถในระยะเวลาแค่ 5 เดือน ราคา 3 ล้านกว่าบาท แต่รถกลับต้องมามีสภาพแบบนี้ ทุกท่านคิดเห็นกันอย่างไรบ้างคะ มีใครเคยเจอปัญหานี้บ้างมั้ยคะ ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าที่เข้ามาตอบนะคะ หนักใจมากจริงๆค่ะ
นี่หรือรถเบนซ์ E-300 BlueTEC HYBRID ป้ายแดง 5 เดือน มาดูสภาพกันค่ะ
หลังจากนั้นก็มีการใช้งานมาได้เพียง 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 22/4/59 ถึงวันที่ 30/9/59 ระยะรถ 8,000 กว่ากิโลเมตร รถได้มีอาการสตาร์ทไม่ติด จึงต้องนำรถขึ้นสไลด์มาที่บริษัทในวันที่ 3/10/59 เพื่อส่งเข้าศูนย์ซ่อมแต่ทางศูนย์ซ่อมได้ทำการชำแหละรถทั้งคันเพื่อซ่อมแซม โดยไม่ได้แจ้งทางลูกค้าว่าจะต้องมีการรื้อรถทั้งคัน ทางคุณพ่อได้เข้าไปตรวจเช็ครถที่ส่งซ่อมพบว่าการทำงานของทางศูนย์บริการไม่เรียบร้อย และไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่เหมาะสมกับชื่อเสียงของรถ ทำให้คุณพ่อไม่มั่นใจในความปลอดภัยของรถว่ารถที่ประกอบกลับใหม่จะได้มาตรฐานเหมือนกับที่ออกมาจากโรงงาน และได้แจ้งยืนยันที่จะไม่รับรถกับศูนย์บริการที่ซื้อรถ แต่ไม่ได้รับคำตอบในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น คุณพ่อจึงติดต่อไปยังสาขาหลัก และได้รับการยืนยันว่าไม่สามารถคืนรถได้ หลังจากนั้นก็ได้ทำการติดต่อไปยังบริษัททั้งสองหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ
นอกจากนี้ทางเรายังไม่ได้รับหนังสือสัญญาซื้อขายรถ,กรมธรรม์ประกันภัยชั้น1และรถยังไม่ได้จดทะเบียนเลยค่ะ แม้ว่ารถจะใช้งานมา 5 เดือนแล้ว
และนี่คือสภาพของรถที่โดนชำแหละค่ะ
นี่คือสภาพการทำงาน เอาของที่รื้อมาใส่เบาะลูกค้าโดยไม่มีอะไรรองรับเลยค่ะ
เลขไมล์หลังจากที่ศูนย์นำไปทดลองขับค่ะ ก่อนหน้าที่จะเข้ามีระยะแค่ 8000 กว่ากิโลเมตรค่ะ
ทางช่างได้แจ้งว่าส่วนที่เสียคือตัวคอนโทรลไฮบริดซึ่งเป็นส่วนหัวใจของรถ ตัวรถในระยะเวลาแค่ 5 เดือน ราคา 3 ล้านกว่าบาท แต่รถกลับต้องมามีสภาพแบบนี้ ทุกท่านคิดเห็นกันอย่างไรบ้างคะ มีใครเคยเจอปัญหานี้บ้างมั้ยคะ ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าที่เข้ามาตอบนะคะ หนักใจมากจริงๆค่ะ